The Story of HAPPINESS
เป็นความจริงใช่ไหม ที่ทุกๆคนในโลกอยากมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น (ใครอยากค้านโปรดยกมือขึ้น)
เอ้า ทีนี้ลองสังเกตดูสิ ว่าส่วนใหญ่แล้ว อะไรที่ทำให้เรามีความสุข คิดมาหลายๆอย่างเลยนะ
เวลาได้ดูทีวี? ได้โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด? ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ? ได้อะไรสักอย่างที่อยากได้ม๊ากกมากกกก ? ตอนนั้นเรามีความสุขสุดๆเลย ใช่ป่ะ?
บิงโก!!! เห็นยังๆๆ เราต้อง “ได้” ของที่อยากได้ สิ่งที่อยากได้มาก่อนใช่มั๊ย มันถึงจะมีความสุข ถ้าอย่างนั้นความสุขมันก็ไม่ได้อยู่ที่ “ของ” อันนั้นสิ เพราะถ้าความสุขมันอยู่ที่ “ของ” จริงๆน่ะ แค่เราเห็นมัน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม หรือจะเห็นอีกสักกี่ครั้ง แม้ว่าเราจะยังไม่ได้เป็นเจ้าของมัน เราก็ควรจะมีความสุขได้ทุกครั้งเหมือนเป็นโปรแกรมเลยสิ จริงไหม?
ความจริงแล้ว ความสุขไม่ได้อยู่ที่ตัว “วัตถุ” หรอก แต่เรามีความสุขได้ เพราะ “วัตถุ”นั้น มันมาตอบสนอง “สัญลักษณ์” ที่อยู่ลึกๆข้างในจิตใจของเราไงล่ะ
“สัญลักษณ์” ที่ว่า เมื่อมีสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้ว เราจะดูอินเทรนด์ ทุกคนจะยอมรับเรา พอได้มันมาแล้วมันก็ตอบสนองความอยากๆๆของฉัน อยากเล่น อยากคุย อยากแชต ฯลฯ มันต้องเป็นอย่างที่เราหวังลึกๆอยู่ในใจก่อนใช่มั๊ย มันถึงจะมีความสุข
(ซึ่งแน่นอนว่า “สัญลักษณ์” ที่แต่ละคนหวังอยู่ในใจคงไม่เหมือนกันเปี๊ยบอยู่แล้ว แต่ละคนจะแตกต่างกันไป)
(ซึ่งแน่นอนว่า “สัญลักษณ์” ที่แต่ละคนหวังอยู่ในใจคงไม่เหมือนกันเปี๊ยบอยู่แล้ว แต่ละคนจะแตกต่างกันไป)
เพราะฉะนั้น เห็นหรือยังว่าคนเราจะมีความสุขได้ ไม่ได้อยู่ที่ “วัตถุ” เป็นตัวสำคัญ แต่อยู่ที่ “ใจ” ของเราต่างหาก
จะยกตัวอย่างให้ฟังละกันนะ ว่าทำไมความสุขมันถึงอยู่ที่ “ใจ”
สมมติว่า เราไปเดินเที่ยวกับเพื่อน ๆ ผ่านร้านขายขนม เพื่อน A บอกว่า “โห ขนมนี้น่ากินจังเลย ขอซื้อก่อนนะ” เพื่อน B ก็เห็นขนมนั้นเหมือนกันนะ หิวเหมือนกันด้วย แต่ไม่ได้สนใจคิดจะซื้อเลย
เป็นเพราะอะไร? ทั้งๆที่เหตุการณ์เดียวกัน แต่คนเรากลับตอบสนองต่างกัน? ... มันเป็นเพราะจิตใจของแต่ละคนมีพื้นไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทั้งสุข ทั้งทุกข์ หรืออะไรก็ตาม มันจะขึ้นอยู่กับ “จิตใจ” ของเรา ว่าจะตอบสนองอย่างไรต่อสิ่งนั้น
คราวนี้ ในเมื่อความสุขมันอยู่ที่ ใจ ของเราแล้ว ทำไมเราไม่ลองหาความสุขจากอะไรที่มันใกล้ๆตัวบ้างล่ะ หลังจากที่หาความสุขจากของไกลตัวมามากแล้ว ... ลองหาความสุขจากอะไรใกล้ๆตัวดูบ้างนะ เช่น ลองไปเล่นกับหมาที่เลี้ยงไว้บ้าง ทำงานศิลปะเปิดเพลงฟังเบาๆบ้าง คุยเล่นกับพ่อแม่พี่น้องบ้าง นอนเอกเขนกตามสบายที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้านบ้าง... หาอะไรง่ายๆ ที่ตัวเองทำแล้ว ไม่เบื่อ ทำแล้วมีความสุข บางทีทำไปเราอาจจะมีความสุขมากกว่าตอนที่ได้ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดอีกนะ ลองสังเกตดู บางทีอาจจะรู้สึกว่า
“เออ มันก็มีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะนี่นา สนุกด้วย ทำแทบไม่ทันเลย”
ให้เราลองหาความสุขง่ายๆใกล้ๆตัวทำดูบ้าง เราจะพบว่าความสุขมันเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่เราคิดนะ ไม่ต้องรอให้ได้นู่นได้นี่มาก่อน ปลายทางเมื่อได้มันมาแล้ว เราอาจจะมีความสุขก็จริง แต่ระหว่างทางที่วิ่งตามหามันน่ะ เหนื่อยไหม?? หนูว่าเหนื่อยนะ ไม่ได้มาก็ทุกข์อีก “อะไร ชั้นอุตสาห์ต่อคิวตั้งนาน กลับไม่ได้ซะนี่!!!!” ><
แต่ความสุขที่เราสร้างขึ้นเองง่ายๆใกล้ๆตัว เชื่อเถอะว่าถ้าเป็นสิ่งที่เรารักจริงนะ เราไม่ต้องรอความสุขตอนที่มันเสร็จสำเร็จหรอก แค่ตั้งแต่เตรียมการ ไปจนถึงระหว่างทำมันให้สำเร็จ เราก็มีความสุขแล้ว
ลองเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันนี้เลย ไม่ต้องเดี๋ยวหรอก แล้วความสุขมันจะบินมาหาเราเองแหละ!!!
Warning อย่าลืมนะว่า เราไม่สามารถมีความสุขได้ตลอดเวลาหรอก เพราะชีวิตมันก็ต้องมีทุกข์ มีความเบื่อ มีอะไร หลายๆอย่างผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาเติมเต็มรสชาติของชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นจงอย่าไปยึดติดกับความสุข แต่ให้เราสร้างเหตุของความสุขให้มากที่สุด ส่วนเวลาที่เราไม่มีความสุข มีคาถาหนึ่งที่ช่วยได้ เป็นคาถาจากนิทานเรื่อง “กษัตริย์โซโลมอน”นะ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ท่องคาถานี้ไว้
“ ... แล้วมันก็ผ่านไป ...”
ก้เห็นด้วยกับที่เขียนไว้ แต่ด้วยอารมบางทีคนเราก้ยับยั้งได้ยาก
ตอบลบแต่สำหรับพี่ พี่มีความสุขทุกวันอยู่แล้ว แม้จะมีเรื่องเครียดบ้างแต่แค่มองสิ่งเล็กๆรอบตัว ถ้ามองว่าเป็นความสุขมันก้จะสุขได้ทุกวันะ
สาธุ... กับบทความดีๆ ของนักเขียนสมัครเล่นคนนี้... ขอขอบพระคุณครูบาอาจารย์ที่สอนให้หนูมีความคิด "สุขง่าย ทุกข์ยาก" และแบ่งปันออกมาเป็นตัวหนังสือนะจ๊ะ หากยกข้อธรรมเชื่อมโยงอีกสักหน่อยก็เยี่ยมเลย ลูกใครเนี่ย...อิ..อิ..ลูกแม่แจงเอง
ตอบลบลึกซึ้งจริงๆ คิดวิเคราะห์ออกมาได้ยังไง การที่จะเขียนออกมาแบบนี้ได้ต้องมีเหตุปัจจัยหลายอย่างนะ ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ชยสาโร คุณครูทุกท่านทั้งจากโรงเรียนทอสีและโรงเรียนปัญญาประทีป ที่ได้บ่มเพาะหนูมาจนเป็นเช่นวันนี้ พ่อภูมิใจในสิ่งที่หนูเพียรสร้างและจะคอยเป็นกำลังใจตลอดไป พ่อจะคอยติดตามผลงานใหม่ๆ ของหนูต่อไปนะ
ตอบลบลูกใครหนอพ่อแม่ช่างปั้น ... ^__^
ตอบลบครูเชื่อว่าคนที่มีสัมมาทิฎฐิ ต่อให้จะอีก ๑๐ หน้ากระดาษ ๑๐๐ หน้าบล็อค ๑๐๐๐ หน้าเวที ความคิดของคนแบบนี้เหมาะที่จะอยู่ในทุกหน้า สาธุให้ครอบครัวของนี้ด ทุกสิ่งที่บรรจงสร้างนี้ดให้เป็นนี้ดเช่นทุกวันนี้นะคะ
ตอบลบขอบคุณทุกคนคร้าบบบบบบบบบบบบบบบ >< คนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเมนท์ คือ พี่แนน 5555+
ตอบลบoh absolutely !! 55555. like this
ตอบลบขออนุโมทนากับบล็อคดีๆแบบนี้นะครับ
ตอบลบตั้งใจทำต่อไปนะครับ...อย่าหยุดแค่นี้นะครับ
..หนูนี้ด..
ปลื้มนี้ดมากค่ะ :) แม่แจงเล่าให้ฟังว่านี้ดอยากเป็นนักเขียนและครู ครูขอเชียร์สุดตัวเลย ครูชอบที่นี้ดได้ฝึกเขียน เหมือนเราได้ใช้ชีวิตบนเส้นบรรทัดแบบไม่ประมาท การฝึกจะทำให้เราไม่หลงลืม แต่ก็ได้ใช้เวลาอย่างลุ่มลึกในแต่ละบรรทัด ครูขอให้นี้ดได้ใช้คำติชมเป็นกำลังใจและขั้นบันได (คำตินี่ยิ่งดีนะ ทำให้เราได้พัฒนาและก้าวขึ้นไปอีกขั้น ^-^)
ตอบลบจะคอยติดตามผลงานนะคะ สนใจรวมเล่มไหมเอ่ย?
(ฮิฮิ ขอจีบไว้ก่อนเลยนะ ครูอยากรวมงานเขียนเด็กๆ ค่ะ :)
ครูหยกเองค่ะ (ใช้ล็อกอินครูนุ้ย ^^')
ปล. อยากดูภาพสีน้ำใหญ่ๆ อะจ้ะ ได้ไหมจ๊ะ?
ตอบลบ(ครูหยกอีกที ^^')
@ ทุกๆคน ขอบคุณมากๆๆนะคะ สำหรับทุกๆคอมเมนต์ และก็จะรับคำติชมกับคำแนะนำทุกๆข้อไว้เลยค่ะ งานเขียนชิ้นต่อไปจะได้ออกมาดีขึ้นๆนะคะ
ตอบลบป.ล.ตอนนี้อาจจะยังไม่มีเวลาเขียนมาก เพราะอยู่ในช่วงใกล้ปิดเทอม แต่ตอนปิดเทอมจะให้เต็มที่ค่ะ!!!!!
@ คุณครูหยก ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ภาพสีน้ำไว้จะทำให้ใหม่นะคะ ตอนแรกทำบล็อกไม่ค่อยเป็น แก้ไปแก้มา จากที่เคยใหญ่ก็เลยเหลือเล็กนิดเดียว...
ความสุขของทึกคนอยู่ที่ในใจแบบที่น้องนี้ดบอกจิงๆ ค่ะ เพราะถ้าใจคนเราไม่เป็นสุข ทำอะไรมันก็ไม่มีความสุขและทุกข์ไปหมดทุกอย่าง....เพราะความสุขมันอยู่ที่ใจค่ะ...ไว้น้องน้ดมีบลีอค ดีๆ ก็สงมาแบ่งปันพี่อ่นบ้างนะจ๊ะ หัดเขียนเยอะๆ นะจ๊ะ จะได้เป็นนักเขียนมืออาชีพไปเลย....ง
ตอบลบน้องนิ้ดเขียนได้ล้ำลึก มองโลกได้ยิ่งกว่าผู้ใหญ่หลายๆ คนเสียอีก
ตอบลบดีใจที่ได้เห็นวัยรุ่ยสมัยนี้มีความคิดความอ่าน
และเข้าใจเขียนเรื่องให้น่าอ่าน
อ้อ...ใช้ภาษาได้ดีซะด้วย
อนาคตเราคงได้เห็นนักเขียนรุ่นเยาว์เกิดในวงการแน่ๆ
เอาใจฃ่วยนะจ๊ะ
แม่จ๋า (แม่โรโล)
อ่านแล้วทึ่งครับ สิ่งที่เขียนใกล้กับ "ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป" แต่ใช้เป็นภาษาปัจจุบัน
ตอบลบขอเป็นกำลังใจให้น้องนิ้ดที่จะแบ่งบันความคิดให้อ่านในบทความถัด ๆ ไปนะครับ